เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา อดีตนักฟุตบอลระดับซุปเปอร์สตาร์ในตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ได้ออกมาแถลงข่าวว่าได้รับสิทธิ์การก่อตั้งให้เป็นแฟรนไชส์แห่งทีมฟุตบอลชื่อดังอย่าง Major League Soccer (MLS) แห่งเมืองไมอามี ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่เขาต้องเดินเรื่องมายาวนานตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งตอนนั้นเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ 25 ของลีก แต่เขายังไม่มีการออกมาแถลงข่าวว่าในรายละเอียดนั้นจะใช้ชื่อไหนเป็นชื่อทีม แต่ที่แน่ๆ นั้นเขาจะเข้าร่วมการแข็งขันแน่นอนในปี 2020
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขานับว่าเป็นเหมือนฝันที่เขาคิดไว้ตั้งแต่เด็กๆ ว่าต้องมีทีมฟุตบอลเป็นของตนเองและต้องทำให้ประสบความสำเร็จเหมือนกันกับทีม Class of 92 ทีมที่เขาชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆ ที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้ควบคุม จุดเริ่มต้นของการได้สิทธิ์นี้เริ่มมาจากตอนที่อดีตผู้คุมทีมได้สย้ายไปเข้าร่วมทีมกับลอสแอนเจลิส แกแล็กซี่ เมื่อปี 2007 ด้วยเหตุนี้เหมือนเดวิด เบ็คแฮม จะรู้ตัวล่วงหน้าจึงเตรียมแผนมาเป็นระยะเวลานั้นเพื่อการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลสักทีม โดยมีสัญญาว่าต้องสามารถซื้อแฟรนไชส์ของสโมสรฟุตบอลด้วยเพื่อที่จะให้เข้าร่วมเล่นในการแข่งขัน เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ได้ด้วยราคา 25 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อช่วงต้นปี 2014 เขาได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะซื้อทีมฟุตบอลในเมืองของไมอามีแต่เกิดเหตุสุดวิสัยเลย ทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการเพราะความมั่นคงในการเงิน และน่าจะมาจากเรื่องทุนงบประมาณที่ใช้สร้างสนามกีฬาแต่ก็ต้องต่อสู้จนถึงที่สุดจนเขาได้ประสบความสำเร็จ เรื่องการลงทุนและงบประมาณที่มีปัญหานั้นไม่ได้เกิดจากเดวิด เบ็คแฮมคนเดียวเสมอไปแต่เขามีผู้ร่วมอุดมการณ์ด้วยถึง 6 คน ส่วนในเรื่องสนามฟุตบอลที่มีปัญหาเรื่องการลงทุนทำนั้น เขาได้ลงทุนซื้อที่ทั้งหมด 6 เอเคอร์ในแถบโอเวรอร์ทาวน์และมีโปรแกรมที่จะขยายพื้นที่เพิ่มเติมจาก 6 เอเคอร์เป็น 9 เอเคอร์ในอนาคต นอกจากนี้เขายังมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้มีการพัฒนาสโมสรของเขาให้มีขนาดจุคนให้ได้ถึง 25,000 คน เพื่อให้เป็นทีมฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุดต่อไป
ถึงแม้ว่าตอนนี้เดวิด เบ็คแฮม เขายังไม่มีชื่อทีมแบบจริงจัง และโลโก้ทีม รวมถึงชุดแข่งขันไม่รู้ว่าจะออกแบบเป็นอย่างไรให้เหมาะสม แต่ชาวไมอามีก็ได้ให้กำลังเดวิด เบ็คแฮม อย่างเต็มอัตราสูบและเรียกตัวเองว่า “เซาธ์เทิร์น รีเจี้ยน” ซึ่งเป็นกำลังใจถึงแม้ไม่ได้มากมาย แต่ก็ทำให้เดวิด เบ็คแฮม ถึงกับยิ้มไม่ยอมหุบเลยทีเดียว