ว่ายน้ำ มีกฎกติกาอะไรบ้างและแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

หนึ่งในกีฬาที่ประวัติมาค่อนข้างยาวนานเลยทีเดียวก็คือ กีฬาว่ายน้ำ เพราะน้ำกับวิถีชีวิตมนุษย์ถือว่าเป็นของที่อยู่คู่กันมานานมากแล้ว ดังนั้นไม่แปลกที่มนุษย์จะมีการพัฒนาตัวเองเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ในน้ำได้เพื่อเอาตัวรอดจนถึงว่ายเพื่อล่าสัตว์ จากเหตุผลดังกล่าวได้พัฒนาการว่ายน้ำมาสู่การแข่งขันในปัจจุบันมากมาย ใครที่ยังไม่เคยดูแข่งว่ายน้ำแล้วอยากรู้ว่ากีฬาชนิดนี้แข่งกันอย่างไร เรามีคำตอบ

ประวัติเกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำ

มาดูประวัติเกี่ยวกับกีฬาว่ายน้ำกันก่อนตามประวัติศาสตร์ที่พอจะค้นหาได้ก็คือ มนุษย์นั้นมีความสามารถว่ายน้ำได้มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์โน่นเลยเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมของตัวเอง เชื่อกันว่าชนเผ่ากลุ่มที่มีประวัติก่อนคริสตกาลอย่าง เอสซีเรี อียิปต์ กรีก โรมัน พวกนี้ว่ายน้ำเป็นกันทั้งนั้นหลักฐานก็คือภาพวาดตามแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีการเขียนเอาไว้บนถ้ำ หลังจากนั้นก็มีการพัฒนารูปแบบการว่ายน้ำเรื่อยมามีการผสมผสานเทคนิควิธีการของหลายกลุ่มชนเผ่าของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเอาท่าต้นแบบของกลุ่มสลาฟ (พวกสแกนดิเนเวีย) ที่ถนัดการใช้ขาแบบท่ากบมาเป็นต้นแบบว่ายน้ำ

ต้นแบบการแข่งขันว่ายน้ำ

ส่วนการแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกจัดขึ้นที่ วูลวิช บาร์ท เมืองที่อยู่ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยการแข่งขันจะกำหนดไว้เพียงรูปแบบเดียวคือ ฟรีสไตล์ แต่คำว่าฟรีสไตล์นั้น แปลว่าว่ายท่าอะไรก็ได้เพื่อให้ถึงเส้นชัยก่อนคนอื่น (ไม่ใช่ให้ว่ายท่าฟรีสไตล์เหมือนในปัจจุบัน) ผู้ชนะในครั้งนั้นชื่อว่า เจ อาเฮอร์ รัดเจน วิธีการว่ายของเค้ามีต้นแบบมาจากอินเดียนแดง จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ท่าว่ายน้ำของเค้าเป็นที่นิยมในยุคนั้น จากนั้นก็มีการแข่งขันว่ายน้ำมากขึ้น รวมถึงการว่ายน้ำเพื่อทำสถิติด้านระยะ จากสองปัจจัยดังกล่าวทำให้กีฬาว่ายน้ำมีการพัฒนาท่าว่ายเพื่อให้เร็วขึ้น รวมถึงได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยจนในที่สุดก็ถูกบรรจุเข้าไปไว้ในโอลิมปิกปี พ.ศ. 2436

ท่าว่ายน้ำที่ใช้ในปัจจุบัน

หลังจากมีการพัฒนาท่วงท่าอยู่นาน สุดท้ายก็เหลือท่าว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันเพียงแค่ 4 ท่าเท่านั้น ได้แก่ ท่าฟรีสไตล์ การว่ายน้ำที่คว่ำหน้าลงแต่ยกแขนขึ้นเหนือน้ำ พุ่งไปข้างหน้าเหมือนกงล้อ ท่ากรรเชียงท่านอนหงายบนผิวน้ำแล้วยกแขนเหนือศีรษะเพื่อผลักร่างกายไปด้านหน้า สามท่ากบท่าว่ายน้ำที่ใช้การถีบขาเหมือนกับกบ และท่าผีเสื้อ ท่าว่ายน้ำที่ใช้แรงดีดของร่างกายกระโจนขึ้นเหนือน้ำแล้ววาดแขนสองข้างไปด้านหน้าเพื่อพุ่งไป

สนามการแข่งขัน

กีฬาว่ายน้ำนั้นหากย้อนไปในสมัยอดีต จะเป็นการว่ายกับแหล่งน้ำตามธรรมชาติมากกว่า เพื่อเป็นการวัดระยะทางและความอึดของนักกีฬามากกว่า แต่หลังจากมีการตั้งกฎกติกาอย่างสากล ทำให้การแข่งขันว่ายน้ำจะเป็นการว่ายในสระว่ายน้ำตามมาตรฐาน (เนื่องจากจะวัดความเร็วในการว่ายน้ำในระยะทางเท่ากัน) ขนาดของสระจะมีความกว้าง 25 เมตร ยาว 50 เมตร ภายในสระจะต้องมีการแบ่งลู่แข่งขันออกเป็น 8 ลู่ ส่วนความลึกจะต้องมีอย่างน้อย 1.50 เมตรขึ้นไป

รูปแบบการแข่งขันว่ายน้ำ

การแข่งขันว่ายน้ำ จะแบ่งออกเป็นท่าต่างๆ (เดี่ยว) กับผสม (ว่ายทั้ง 4 ท่า) แล้วก็แบ่งเป็นประเภทชาย หญิง แบบเดี่ยวหรือแบบทีมก็ได้ (หากเป็นการแข่งขันสำหรับคนพิการก็จะแยกย่อยไปอีกตามลักษณะของความพิการ) ส่วนใหญ่จะแบ่งการแข่งขันออกเป็นระยะทาง อย่างฟรีสไตล์ก็จะมี 50, 100, 200, 400 ,800 และ 1,500 เมตร ท่ากรรเชียง ท่ากบ และท่าผีเสื้อ 50,100, 200 เมตร วิธีการแข่งขันก็จะไม่มีอะไรซับซ้อน นักกีฬาจะต้องออกตัวพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ ใครว่ายได้เร็วกว่าภายในระยะทางที่กำหนดก็จะเป็นผู้ชนะ